รวม 5 มาตรการ “ประกันสังคม” ช่วยเหลือแรงงานประกันสังคมที่ว่างงานจากโควิด-19
.
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงแผนช่วยเหลือแรงงานผู้ประกันตน โดยมีใจความสำคัญว่า ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตนได้สั่งการไปยังทุกหน่วยงานในกระทรวงแรงงานรวมถึงสำนักงานประกันสังคม เพื่อออกมาตรการเยียวยาแรงงานประกันสังคมที่ถูกเลิกจ้าง ลาออก 15 ล้านคน อย่างเร่งด่วน ซึ่งในส่วนมาตรการของสำนักงานประกันสังคมที่ออกมา และผ่านคณะรัฐมนตรีไปแล้ว จะมีดังต่อไปนี้
- การลดอัตราเก็บเงินสมทบนายจ้าง และลูกจ้างมาตรา 33 และ 39 ที่มีผู้ประกันตนได้รับผลประโยชน์จำนวน 13,346,143 ราย โดยมาตรา 33 นายจ้างจะจ่ายสมทบเหลือ 4% ส่วนลูกจ้างจะจ่ายสมทบ 1% และมติครม. เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2563 เห็นชอบให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 (ไม่มีนายจ้าง) ซึ่งลดจาก 221 บาท/เดือน เป็น 86 บาท/เดือน
- การขยายระยะเวลาการนำส่งเงินสมทบให้แก่นายจ้าง และผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 สำหรับงวดเดือนมีนาคม –พฤษภาคม 2563 ออกไปอีก 3 เดือน
- นายจ้างจะได้รับประโยชน์ 488,226 รายทั่วประเทศ
- ผู้ประกันตนมาตรา 39 จะได้รับประโยชน์ 1,653,714 รายทั่วประเทศ
- การเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย เว้นแต่กิจการที่ภาครัฐสั่งการให้หยุดชั่วคราว โดยจะยังเพิ่มสิทธิไปถึงกรณีว่างงานเพราะ “ถูกเลิกจ้าง” และ “ลาออกเอง”
- การส่งเสริมให้มีการจ้างงาน โดยขยายระยะเวลาโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานวงเงิน 30,000 ล้านบาท
- การดูแลรักษาเพิ่มสิทธิการรักษาประกันสังคมแก่ผู้ประกันตน โดยจะเริ่งเพิ่มสิทธิการรักษาแก่ผู้ประกันตนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และผู้ประกันตนที่ป่วยด้วยโรคโควิด-19 ให้เท่าเทียมกับการรักษาทั้ง 3 กองทุน
.
โดยมาตรการทั้ง 5 ข้อที่กล่าวมา ได้เริ่มดำเนินการแล้วแต่เหลือเพียงกระบวนการบังคับใช้เท่านั้น จึงขอให้ผู้ประกันตนรอสักนิด เพื่อให้ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยไม่ต่ำกว่าเดือนละ 5,000 บาท/เดือน โดยเรื่องนี้จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาโดยเร็วที่สุด
.
นอกจากนี้สำนักงานประกันสังคมยังมีช่องทางให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ ในการที่สถานประกอบการและผู้ประกันตน สามารถเข้าไปใช้บริการได้ใน
www.sso.go.th
.
หากท่านใดมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th หรือสายด่วนประกันสังคม 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง
.
ขอบคุณข้อมูล : ประชาชาติธุรกิจ ,Money Guru