ปัจจุบันหลายองค์กรเริ่มให้ความสนใจเครื่องบันทึกเวลาแบบ “สแกนลายนิ้วมือ” แทนการใช้เครื่องตอกบัตร แต่ด้วยสินค้าในปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลายรุ่น และมีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน ทำให้บางองค์กรสับสนว่าจะเลือกใช้แบบใดจึงจะเหมาะสม ทั้งในเรื่องของราคาและฟังก์ชันการใช้งาน วันนี้ไทเกอร์ซอฟท์จึงนำวิธีการเลือกซื้อเครื่องสแกนลายนิ้วมือมาฝาก เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อ
1.หาวัตถุประสงค์ในการใช้งาน
เพื่อการใช้งานได้คุ้มค่าคุ้มราคา จึงจำเป็นที่จะต้องทราบถึงวัตถุประสงค์การใช้งานเสียก่อน ว่าต้องการบันทึกเวลาการทำงานของพนักงานอย่างเดียว หรือควบคุมระบบ เปิด – ปิด ประตูด้วย หากเป็นองค์กรที่จะต้องออกนอกสถานที่บ่อย ๆ ก็ควรเลือกใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือแบบพกพาอย่าง รุ่น “S 922” ซึ่งการใช้งานที่ตรงกับวัตถุประสงค์ จะช่วยให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
2.เลือกใช้งานตัวเครื่องให้เหมาะสมกับจำนวนพนักงาน
เครื่องสแกนลายนิ้วมือแต่ละรุ่นมีการรองรับผู้ใช้งานได้ไม่เท่ากัน เริ่มตั้งแต่ 500 ไปจนถึง 10,000 ผู้ใช้งาน หากเลือกใช้งานไม่สมดุลกับจำนวนพนักงานในองค์กร อาจทำให้ต้องซื้อเครื่องใหม่ เพราะเครื่องบันทึกได้ไม่เพียงพอ ทำให้สิ้นเปลืองงบโดยใช่เหตุ เช่น ซื้อเครื่องสแกนที่รองรับได้ 500 แต่มีพนักงานมากกว่า 1,000 คน ทำให้ต้องซื้อเครื่องสแกนถึง 3 เครื่อง หรือมีพนักงานไม่มาก แต่เลือกซื้อเครื่องที่รองรับได้เยอะเกินความจำเป็น ก็จะทำให้สิ้นเปลือง หากคิดว่าในอนาคตจะมีพนักงานเพิ่มมากขึ้น เลือกซื้อที่รองรับผู้ใช้งานได้มากก็ไม่เสียหายอะไร เพราะถือว่าซื้อครั้งเดียวแต่ใช้ได้นาน
3.สะดวกเชื่อมต่อแบบไหน ให้เลือกแบบนั้น
เมื่อจะเก็บข้อมูลในเครื่องสแกนลายนิ้วมือจะต้องเชื่อมต่อเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็น TCP/IP , RS485 ,ADMS หรือถ้าจะให้สะดวกก็คือการเก็บข้อมูลด้วย USB Flash Drive และ WiFi ที่มีฟังก์ชันนี้อยู่ในเครื่องสแกนลายนิ้วมือรุ่น “UA 760” ซึ่งสามารถเลือกใช้งานได้ตามที่ผู้ใช้งานสะดวก
4.หาจุดติดตั้งให้เหมาะสม
ก่อนจะเลือกซื้อเครื่องสแกนลายนิ้วมือจะต้องดูสถานที่ที่จะติดตั้งเสียก่อน ว่ามีแสงมากหรือน้อยขนาดไหน อยู่ในจุดที่โดนแดดโดนฝนหรือไม่ เพราะปัจจัยภาคนอกเหล่านี้ส่งผลให้ตัวเครื่องมีอายุการใช้งานสั้นลง หากติดตั้งภายในอาคารอาจไม่มีปัญหาเท่าไร แต่ถ้าเป็นนอกอาคารก็ควรมองหาเครื่องสแกนลายนิ้วมือที่ทนทาน กันแดดกันฝน อย่างรุ่น “TF 1700” และ “S 922” เพื่อยืดอายุการใช้งาน จึงต้องหาจุดติดตั้งให้เหมาะสมเสียก่อน
5.มองหาเครื่องสแกนลายนิ้วมือให้เหมาะสมกับงบจัดซื้อ
หากมีงบประมาณที่จำกัด จะต้องพิจารณาในการเลือกซื้อให้ดี เพื่อให้ได้เครื่องที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณได้มากที่สุด ซึ่งในปัจจุบันก็มีเครื่องสแกนให้เลือกมากมาย ทั้งแบบลายนิ้วมือ ใบหน้าและทาบบัตร มีให้เลือกหลายรุ่นหลายราคาตามความต้องการของผู้ใช้งาน
6.คำนึงถึงการประกันและบริการหลังการขาย
ประการนี้ถือว่าสำคัญมาก หากได้เครื่องสแกนที่ราคาถูกแต่ไม่มีการรับประกันสินค้าหรือบริการหลังการขาย เมื่อสินค้ามีปัญหาก็อาจทำให้ยุ่งยากในการซ่อมแซม อาจหนักขึ้นขั้นต้องซื้อเครื่องใหม่เลยก็เป็นได้ แต่สำหรับลูกค้าของไทเกอร์ซอฟท์อย่าได้เป็นกังวล เพราะมีการรับประกันสินค้าทุกรุ่น พร้อมด้วยบริการติดตั้งทั่วประเทศจากทีมช่างมืออาชีพ หากตัวเครื่องมีปัญหาสามารถติดต่อแจ้งมายังไทเกอร์ซอฟท์ได้ตลอดในเวลาทำการ
และนี่ก็คือวิธีการเลือกซื้อเครื่องสแกนลายนิ้วมือ ให้เหมาะสมกับการใช้งานและเพื่อให้ได้ตัวเครื่องที่ คุ้มค่า คุ้มราคา
สำหรับท่านใดที่สนใจเครื่องสแกนลายนิ้วมือ หรือโปรแกรมบริหารงานบุคคล สามารถติดต่อไทเกอร์ซอฟท์ได้ที่
ฝ่ายขายโทร. 02-347-0374-76
ฝ่ายบริการโทร. 02-347-0373
Facebook: Tigersoft.co.th
Line@ : @tigersoft1998
“รับติดตั้งทั่วประเทศ”