ประกันสังคมแจ้งสาเหตุในการมอบสิทธิใหม่ให้แก่ผู้ประกันตนเพิ่มอีก 3 สิทธิ เพื่อให้ครอบคลุมการดูแลบริการและสิทธิประโยชน์ของแรงงานทุกกลุ่มทุกวัย กระทรวงแรงงาน โดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ส่งมอบของขวัญปีใหม่ 2566 ภายใต้แคมเปญ “ให้ ฟรี ลด แรงงานสุขใจ เป็นของขวัญปีใหม่กระทรวงแรงงาน 6 ชิ้น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้พี่น้อง ผู้ประกันตน ลูกจ้าง นายจ้าง มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น สำนักงานประกันสังคมได้ขานรับนโยบายมอบของขวัญปีใหม่ 2566 สำหรับผู้ประกันตน มีดังนี้
1. ฟรี ค้นหาความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและโรคหัวใจในสถานประกอบการนำร่อง ใน 7 จังหวัด
โครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนในสถานประกอบการ โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมและดูแลสุขภาพของผู้ประกันตนในเชิงรุก โดยร่วมมือกับสถานประกอบการที่ผู้ประกันตนทำงานอยู่ และสถานพยาบาลในพื้นที่ เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมโรค ค้นหาความเสี่ยง ด้านสุขภาวะเพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันการเจ็บป่วย ลดอาการเจ็บป่วยที่จะส่งผลกระทบต่อการทำงานและคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตน เพื่อขับเคลื่อนการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในสถานประกอบการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ โดยดำเนินการนำร่องใน 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานี ระยอง พระนครศรีอยุธยา และสมุทรสาคร ได้รับการตรวจสุขภาพ โดยใช้โมเดลเชิงรุก ดังนี้
1. เน้นการค้นหาความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและหัวใจ
2. แบ่งกลุ่มตามความเสี่ยง เสี่ยงสูง ปานกลาง และน้อย
3. โรงพยาบาลนัดหมายประเมินเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมรายบุคคลระยะเวลา 6 เดือน
4. ติดตามผลระบบ Telemedicine และดำเนินการปรับพฤติกรรม
เป้าหมาย ผู้ประกันตน 300,000 คน ได้รับการตรวจสุขภาพเพื่อค้นหาความเสี่ยงด้านสุขภาวะ นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันการเจ็บป่วย เกิดต้นแบบด้านการบริการและป้องกันโรคในสถานประกอบการ โดยสามารถลดค่าใช้จ่าย ของผู้ประกันตนต่อหัวเฉลี่ย รายละ 910 บาท (กลุ่มเสี่ยง) 340 บาท (กลุ่มไม่เสี่ยง) วงเงิน 187.50 ล้านบาท
2. ให้เข้าถึงการรักษา 5 โรค ตามโรงพยาบาลที่กำหนด
สำนักงานประกันสังคม มีแนวคิดการพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์ เพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงการรักษา โดยการปรับแนวทางการเข้ารับบริการทางการแพทย์ ให้ผู้ประกันตนที่ป่วยและมีความจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดหรือทำหัตถการ นำร่องในกลุ่มโรคที่มีผู้ประกันตน เข้ารับการรักษามากที่สุด เพื่อลดการรอคอยการผ่าตัด ลดระยะเวลาการพักฟื้นซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกันตน สามารถกลับไปทำงานได้อย่างรวดเร็วและดำเนินชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเชิญชวนโรงพยาบาลที่มีศักยภาพ ตามมาตรฐานที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดทำบันทึกความตกลง เพื่อให้ผู้ประกันตนไม่ต้องรอคอยการผ่าตัด หรือการส่งตัวจากโรงพยาบาลตามสิทธิการรักษา และสำนักงานประกันสังคมจะจ่ายค่าบริการทางการแพทย์โดยตรงกับสถานพยาบาลที่บันทึกความตกลง โดยผู้ประกันตนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรับบริการ ถือเป็นแนวทางที่ส่งเสริมและดึงดูดให้สถานพยาบาลที่มีศักยภาพและได้มาตรฐานในการรักษาเข้าร่วมบริการผู้ประกันตน โดยมี การเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงการรักษาด้วยการผ่าตัดหรือทำหัตถการนำร่องในกลุ่ม 5 โรค ได้แก่
1. โรคมะเร็งเต้านม
2. ก้อนเนื้อที่มดลูก
3. โรคนิ่วในไตหรือ ถุงน้ำดี
4. โรคหลอดเลือดสมอง
5. โรคหัวใจและหลอดเลือด
ทั้งนี้ เมื่อดำเนินโครงการแล้ว สำนักงานประกันสังคมจะต้องมีการติดตามและประเมินผล เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดการบริการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อผู้ประกันตนต่อไป ซึ่งคาดว่า จะมีผู้ประกันตนมาใช้บริการ ทั้งสิ้นจำนวน 7,500 คน
3. ให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนดอกเบี้ยต่ำ
เงื่อนไขไม่เกินรายละ 2 ล้านบาท วงเงิน 30,000 ล้านบาท สำนักงานประกันสังคมได้จัดทำโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน โดยร่วมมือกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถใช้สิทธิในการไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่น และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัยในบัญชีเงินกู้ที่กู้อยู่กับธนาคารเดิม โดยมีวงเงินโครงการ 30,000 ล้านบาท และปล่อยกู้ให้ผู้ประกันตนไม่เกินรายละ 2 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยของผู้ประกันตนลดลงตลอดระยะเวลาการกู้ ดังนี้
– ปีที่ 1 – 5 อัตราดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี คงที่ 5 ปี
– ปีที่ 6 – 8 อัตราดอกเบี้ย MRR – 2.00% ต่อปี
– ปีที่ 9 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย MRR – 0.5% ต่อปี
ผู้ประกันตนสามารถยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2565 – 19 ธันวาคม 2566 หรือจนครบวงเงินที่ได้รับอนุมัติตามโครงการฯ สำหรับคุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อ สถานะเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายใน 12 เดือน ก่อนเดือนที่เข้าร่วมโครงการฯ
ขอบคุณข้อมูลจาก
สำนักงานประกันสังคม
Software : TigerSoft ให้บริการโปรแกรม HR Software หลากหลายรูปแบบ ครอบคลุมทุกฟังก์ชันการทำงาน HR ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น
- โปรแกรมเงินเดือน ที่ช่วยคำนวณเงินเดือนและสวัสดิการต่าง ๆ ของพนักงานได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
- โปรแกรมบริหารงานทรัพยากรบุคคล HR Software ที่ช่วยจัดการข้อมูลพนักงาน ประวัติการทำงาน และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์ ช่วยให้พนักงานสามารถตรวจสอบข้อมูลเงินเดือนและสวัสดิการของตนเองได้ด้วยตัวเอง
- โปรแกรม HRM โปรแกรมบริหารทรัพยากรบุคคลแบบครบวงจร ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- โปรแกรม ERP Oracle (ระบบบริหารทรัพยากรองค์กร ERP) บนระบบ Cloud ที่นิยมใช้และดีที่สุดในประเทศไทยและอันดับ 1 ของโลก ช่วยให้คุณจัดการงานหลังบ้านขององค์กรได้อย่างสะดวก
- โปรแกรม SAP ERP ซึ่งเป็นระบบ ERP ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการภาระงานด้านการเงิน-บัญชี, การบริหารคลังสินค้า, ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
Hardware : TigerSoft ให้บริการเครื่องสแกนนิ้วมือ เครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องบันทึกเวลา Turnstile (Access Control ประตู) เพื่อใช้ในการติดตามเวลาทำงานของพนักงาน ช่วยให้องค์กรสามารถตรวจสอบความถูกต้องของเวลาทำงานและป้องกันการทุจริตได้
จุดเด่นของโซลูชัน HR จาก TigerSoft
- ครอบคลุมทุกความต้องการในยุคดิจิทัล
- ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว
- ปลอดภัย แม่นยำ
- ตอบโจทย์ทุกองค์กรทุกขนาด
สนใจหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โปรแกรม HR, HR Software, เครื่องสแกนนิ้วมือ หรือ Turnstile สามารถติดต่อไทเกอร์ซอฟท์ได้ที่
อ่านบทความอื่นๆจากไทเกอร์ซอฟท์ คลิกที่นี่