ว่าด้วยเรื่องเงินเดือนพนักงาน
อย่างที่ทราบกันดีว่าการถามเรื่องเงินเดือนกันนั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะเสียมารยาท แต่บางคนก็ไม่ได้ซีเรียสเท่าไหร่เพราะมองว่าเรื่องเงินเดือนไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรขนาดนั้น ในกรณีที่เป็นญาติ เพื่อนสนิท หรือคนที่ไว้ใจได้ แต่สำหรับสังคมออฟฟิศก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรรู้ของกันและกันโดยเด็ดขาด แม้แต่เพื่อนร่วมงานที่สนิทกันมาก ๆ ก็ไม่ควรให้รู้
แล้วมีใครเคยสงสัยกันหรือไม่…?? ว่าทำไมเรื่องนี้ถึงต้องปิดบังกัน แล้วที่ HR หรือหัวหน้ามักพูดว่าต้องปิดบังเพื่อผลประโยชน์ของพนักงาน ซึ่งก็อดสงสัยไม่ได้อีกว่าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ หรือมีอะไรแอบแฝงอยู่ วันนี้ไทเกอร์ซอฟท์จึงขอหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดกันครับ
การปิดบังเงินเดือน เป็นผลประโยชน์ของพนักงานหรือบริษัท…?
เรื่องเงินเรื่องทองถือเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมาก ๆ แม้นั่นก็ไม่ได้อยู่ในกฏที่ระบุไว้เป็นกิจจะลักษณะ (หรือบางบริษัทมี ?) แต่ก็เป็นมารยาทพื้นฐานที่ทุกคนควรทราบดี ว่าเรื่องเงินเดือนไม่ควรเป็นหัวข้อที่นำมาถามกัน
HR หรือฝ่ายบุคคลก็มักจะเตือนอยู่เสมอว่าห้ามบอกใครเรื่องเงินเดือนโดยเด็ดขาด โดยให้เหตุผลว่าเพื่อผลประโยชน์ของตัวพนักงาน ที่จะเสียเวลาคิดว่าใครได้เงินเดือนเท่าไหร่ แต่ให้เน้นโฟกัสไปที่งานมากกว่า
แต่เชื่อว่ายังคงมีคนสงสัยอีกแน่ ๆ ว่าที่ไม่ให้เปิดเผยเพราะตั้งใจจะกดเงินเดือนของพนักงานหรือเปล่า ซึ่งความจริงแล้วก็อาจประกอบไปด้วยหลายเหตุผล แต่อย่างไรก็ตามการพูดคุยเรื่องเงินเดือนกับเพื่อนเร่วมงาน ก็มีแต่ข้อเสียมากกว่าข้อดี
เพราะอะไรน่ะเหรอ… ก็เพราะทุกคนได้เงินเดือนไม่เท่ากันไง!!
แม้ว่าคุณจะทำงานบริษัทเดียวกัน แผนกเดียวกัน ตำแหน่งเดียวกัน หรือแม้กระทั่งจบมาจากคณะและมหาวิทยาลัยเดียวกัน มันก็สามารถเป็นไปได้ที่จะได้เงินเดือนไม่เท่ากัน และเหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็อาจเพราะปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
- มหาวิทยาลัยและผลการเรียน – ต้องพูดกันตรง ๆ ว่าบ้านเรายังยึดติดกับชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยที่จบมาและผลการเรียน และแน่นอนว่านั่นส่งผลมาถึงการรับเข้าทำงาน รวมถึงเงินเดือนที่ได้รับ จึงไม่แปลกที่จะมีอีกคนได้เงินเดือนมากกว่า
- ความสามารถและประสบการณ์ – หากคุณมีความสามารถหลายด้าน และมีประสบการณ์จากการทำงานจากบริษัทอื่น ๆ ในตำแหน่งงานเดียวกัน หรือมีความสามารถด้านภาษาต่างประเทศ แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มเงินเดือนให้แก่คุณ ซึ่งได้เปรียบมากกว่าคนที่ไม่มีความสามารถและประสบการณ์
- โครงสร้างเงินเดือนของบริษัท – อันนี้พูดถึงกรณีของพนักงานคนละบริษัท แต่เงินเดือนแตกต่างกันมากเกินไป เพราะแต่ละบริษัทมีงบประมาณในการจ้างพนักงานที่แตกต่างกัน ไป ทำให้เงินเดือนในตำแหน่งเดียวกันได้ไม่เท่ากัน
- ช่วงเวลาที่เริ่มทำงาน – แต่ละบริษัทจะมีงบประมาณในการเฟ้นหาและจ้างพนักงาน โดยในแต่ละช่วงปีจะมีงบประมาณไม่เท่ากัน ทำให้ตำแหน่งงานเดียวกัน เรียนจบจากสาขาเดียวกัน แต่ถ้าเริ่มงานในเวลาที่แตกต่างกัน ก็แน่นอนว่าเงินเดือนของคุณอาจไม่เท่ากัน
จากเหตุผลที่กล่าวมาจึงทำให้แต่ละคนได้เงินเดือนไม่เท่ากัน จึงเป็นเหตุผลว่าการคุยเรื่องเงินเดือนในที่ทำงานอาจเป็นเรื่องที่ไม่สมควรซะเท่าไหร่ เพราะอาจเกิดการเปรียบเทียบกันเองระหว่างเพื่อนร่วมงาน ทำให้คนที่ได้น้อยกว่าอาจได้เงินเดือนน้อยกว่าอาจน้อยใจ และหมดกำลังใจในการทำงาน ซึ่งอาจทำให้ผลงานแย่ลงก็เป็นได้
อ่านถึงตรงนี้แล้วอาจมองกว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่อาจเป็นต้นเหตุของปัญหาต่าง ๆ ในที่ทำงานก็เป็นได้ ทางที่ดีไม่ควรพูดคุยกันเรื่องนี้จะดีกว่า
ในมุมมองของบริษัท จะปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทเองได้อย่างไร?
ยกตัวอย่างเช่น บริษัท A ให้เงินเดือนตำแหน่งกราฟิก 13,000 บาท แต่บริษัท B ให้ 18,000 บาท แน่นอนว่าหลาย ๆ คนก็อาจเลือกบริษัท B เพราะได้เงินมากกว่า
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บริษัทไม่อยากให้เปิดเผยเรื่องเงินเดือนกับใคร เพราะหากมีการเปรียบเทียบเกิดขึ้น ก็อาจเสียเปรียบในการจ้างงานแต่ก็อาจไม่ได้อยากกดเงินเดือนเหมือนที่หลาย ๆ คนคิด เพียงแต่มีแนวทางในการจ้างงานเช่นนี้
สุดท้ายนี้ หากคุณไม่ได้ซีเรียสกับการเปิดเผยเรื่องเงินเดือน ก็สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ แต่ระวังไว้สักนิดก็ดี เพราะอีกฝ่ายอาจไม่ได้รู้สึกแบบคุณ และอาจส่งผลกระทบมาถึงคุณ
ขอบคุณข้อมูลจาก: Rabbit Finance
TigerSoft ผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชั่น HR Software และโปรแกรมเงินเดือน ซึ่งมีระบบการจัดเก็บข้อมูลพนักงานและการจัดการเงินเดือนที่ใช้งานง่าย ลดขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยาก และครอบคลุมการจัดการทั้งระบบประวัติ เงินเดือน ภาษี ประกันสังคม หนังสือรับรองการทำงาน และสวัสดิการ
นอกจากฟีเจอร์หลักในการจัดการทรัพยากรมนุษย์แล้ว TigerSoft ยังมีอุปกรณ์เสริมที่เพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพในการทำงานด้าน HR เช่น เครื่องบันทึกเวลาการเข้า-ออกงาน (เช่น เครื่องสแกนนิ้ว, เครื่องสแกนลายนิ้วมือ, เครื่องสแกนหน้า) และระบบควบคุมการเข้า-ออก (เช่น Access Control ประตู, เครื่องกั้นทางเดิน) ซึ่งช่วยในการบันทึกเวลาการทำงานและควบคุมการเข้า-ออกของบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ TigerSoft ยังช่วยสนับสนุนระบบการจัดการความรู้ในองค์กร เช่น ระบบ KMS, KM และ knowledge management ที่จะช่วยให้องค์กรทำงานได้ง่ายและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
อ่านบทความอื่นๆจากไทเกอร์ซอฟท์ คลิกที่นี่