OKR & KPI: กุญแจสำคัญสู่โบนัสที่ดี
ในยุคนี้การประเมินผลการทำงานไม่ใช่แค่ “ใครทำงานหนัก” เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของผลลัพธ์ และคุณภาพที่ทำได้จริง ซึ่งมีผลต่อโบนัสประจำปี โดยการนำ OKR (Objectives & Key Results) และ KPI (Key Performance Indicators) มาใช้ในการประเมินผลช่วยให้เป้าหมายชัดเจน โปร่งใส และส่งเสริมการพัฒนาของพนักงานอย่างแท้จริง
🔰 OKR (Objectives & Key Results)
OKR เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ทีมงานและองค์กรสามารถตั้งเป้าหมาย (Objective) และวัดผลลัพธ์ (Key Results) ได้อย่างชัดเจน ตัวอย่างเป้าหมาย เช่น “ต้องการเพิ่มยอดขาย 20% ในไตรมาสแรก”
คุณสมบัติเด่นของ OKR :
- ช่วยกำหนดเป้าหมายใหญ่ : ทุกคนในทีมจะมีเป้าหมายร่วมกัน ทำให้การทำงานสอดคล้องกันทั้งองค์กร
- โฟกัสที่ผลลัพธ์สำคัญ: OKR ช่วยลดการทำงานเพียง “เพื่อให้เสร็จ” และเน้นไปที่ผลลัพธ์ที่มีคุณค่า
🔰 KPI (Key Performance Indicators)
KPI เป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมสำหรับวัดความสำเร็จ ตัวอย่าง เช่น จำนวนสายที่ตอบ หรือ ยอดการผลิต
คุณสมบัติเด่นของ KPI :
- เหมาะสำหรับการวัดผลเฉพาะด้าน: ตัวชี้วัดที่สามารถระบุได้ชัดเจนในแต่ละงาน
- โปร่งใสและยุติธรรม: การกำหนด KPI ช่วยสร้างมาตรฐานที่ชัดเจนสำหรับการประเมินผล
👩💼 สิ่งที่ HR ต้องเตรียมพร้อม เพื่อการประเมินผลการทำงานที่มีประสิทธิภาพ✨
- เตรียมเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้อง: สร้างแบบฟอร์มสำหรับการประเมินผลที่ชัดเจน เช่น แบบฟอร์ม OKR/KPI จากนั้นรวบรวมข้อมูลเป้าหมายตัวชี้วัดที่ชัดเจนของแต่ละตำแหน่งงาน และอัปเดตเกณฑ์การประเมินที่สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร
- กำหนดกรอบเวลาในการประเมิน: HR ควรระบุช่วงเวลาสำหรับการตั้งเป้าหมาย การติดตาม และการประเมินผล ด้วยการกำหนดรอบการประชุม ระหว่างหัวหน้าทีมและพนักงานเพื่อหารือผลการทำงาน พร้อมแจ้งกำหนดการประเมินและแนวทางให้ชัดเจนล่วงหน้า
- ฝึกอบรมผู้ประเมิน: มีการจัดอบรมให้หัวหน้างานเข้าใจวิธีการใช้ OKR/KPI อย่างถูกต้อง ที่สามารถให้คำแนะนำในการฟีดแบคที่สร้างสรรค์ เพื่อช่วยพัฒนาพนักงานและสอนวิธีการใช้เครื่องมือ หรือระบบที่เกี่ยวข้องกับการประเมิน
- รับข้อเสนอแนะ และปรับปรุงกระบวนการ: หลังจากขั้นตอนการประเมินงานเสร็จสิ้น HR ต้องจัดทำแบบสอบถาม หรือเวิร์กช็อป เพื่อรวบรวมความคิดเห็นจากพนักงาน
ชี้แจงบทสรุปการประเมิน พร้อมปรับปรุงในส่วนที่ยังมีปัญหาที่ซับซ้อน รวมทั้งสื่อสารการเปลี่ยนแปลงกระบวนการให้พนักงานรับทราบ
👨🏭 และสิ่งที่พนักงานต้องทำเพื่อเตรียมความพร้อม✨
- ทบทวนเป้าหมาย และผลการทำงานที่ผ่านมา: ทำความเข้าใจกับ OKR/KPI ของตำแหน่งงานของตน พร้อมทั้งตรวจสอบเป้าหมายที่ตั้งไว้ในรอบของการทำงานที่ผ่านมา
จากนั้นทำการวิเคราะห์ว่าผลงานใดบรรลุเป้าหมาย และผลงานใดที่ยังต้องปรับปรุง - การเก็บข้อมูลแสดงผลลัพธ์ของการทำงาน: ในการจัดทำ KOR/KPI พนักงานต้องไม่ลืม ที่จะจัดเก็บไฟล์ หรือเอกสารที่แสดงถึงความสำเร็จของงานอย่างเป็นระบบ
เช่น จำนวนงานที่สำเร็จ ยอดขายที่ทำได้ หรือฟีดแบคจากลูกค้า โดยข้อมูลเหล่านี้จะเป็นหลักฐานยืนยันผลลัพธ์ได้ว่าเกิดขึ้นจริง ๆ - รับข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุง: พนักงานควรรับฟังคำแนะนำจากหัวหน้างานอย่างเปิดใจ พร้อมจดบันทึกข้อเสนอแนะที่ได้รับ และนำไปวางแผนพัฒนาตนเอง
โดยหลีกเลี่ยงการมองข้อเสนอแนะในเชิงลบ และนำมาปรับใช้เพื่อต่อยอดการเรียนรู้ - ตั้งคำถามเพื่อพัฒนาตนเองในอนาคต: พนักงานควรสอบถามเป้าหมายในรอบของการทำงานครั้งถัดไป และแนวทางที่องค์กรต้องการ ขอคำแนะนำในการพัฒนาทักษะที่จำ
เป็นสำหรับตำแหน่งงาน และร่วมเสนอแนวทางการทำงานที่จะทำให้องค์กรบรรลุเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
แล้วทำไม OKR & KPI จึงเป็นกุญแจสู่โบนัสที่ดี ?
เพราะการใช้ OKR และ KPI จะช่วยเชื่อมโยงผลงานกับโบนัสอย่างโปร่งใส ทำให้พนักงานเห็นความสำคัญของการตั้งเป้าหมาย และการทำงาน
ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยสะท้อนความสามารถ และพัฒนาการของพนักงานได้อย่างแท้จริง
โปร่งใสและเป็นธรรม: สร้างระบบการประเมินด้วย OKR & KPI 🔑❤
การประเมินผลการทำงานด้วย OKR และ KPI เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กร และพนักงานมีเป้าหมายร่วมกัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
การทำงาน และสร้างผลตอบแทนที่ยุติธรรม โดยการเตรียมความพร้อมจากทั้ง HR และพนักงานจะช่วยให้กระบวนการนี้ดำเนินไปอย่างราบรื่นและโปร่งใส
อ่านบทความอื่นๆจากไทเกอร์ซอฟท์ คลิกที่นี่