ในปัจจุบันนี้ระบบ Biometric Authentication ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญเท่ากับการใช้งานภายในองค์กรและสถานที่ต่าง ๆ กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับ Biometric Authentication จำเป็นที่จะต้องพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับ Biometric Authentication ให้มีความทันสมัยและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ
ระบบ Biometric Authentication คืออะไร
ระบบ Biometric Authentication คือ เทคโนโลยีที่ได้นำเอาเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละบุคคล (Personal Identity) ที่เป็นข้อมูลทางชีวภาพ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของลักษณะทางกายภาพอย่างเช่นลายนิ้วมือ ม่านตา ใบหน้า รวมไปถึงลักษณะทางพฤติกรรม อย่างเช่น ท่าทางการเดิน เสียง การเซ็นชื่อ จังหวะการพิมพ์ เป็นต้น เข้ามาวิเคราะห์เพื่อเปรียบเทียบในการยืนยันตัวตนเพื่อเข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับหรือมีความสำคัญ เป็นการตรวจสอบที่มีความละเอียดอ่อนซับซ้อนจึงทำให้มีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้ก็ยังสามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายอีกด้วย
ประเภทของระบบ Biometric Authentication ที่ใช้กันในปัจจุบัน
1. ระบบสแกนนิ้ว (Fingerprint Recognition)
เป็นระบบที่ใช้ลายนิ้วมือของบุคคลเพื่อยืนยันตัวตน เรียกได้ว่าเป็นระบบ Biometric Authentication ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน รถยนต์ การเข้าออกอาคาร ซึ่งเครื่องสแกนลายนิ้วมือก็มีให้เลือกอย่างหลากหลายและมีราคาที่ไม่แพงจนเกินไป
2.ระบบจดจำใบหน้าอัตโนมัติ (Face Recognition)
เป็นการใช้กายวิภาคของใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคลเพื่อยืนยันตัวตน นิยมใช้กันมากในอุปกรณ์สมาร์ตโฟน สำหรับการยืนยันตัวตนรวมไปถึงให้การชำระเงินด้วยบัตรเครดิต
3.ระบบสแกนม่านตา (Retina Recognition)
เป็นระบบที่ใช้จอประสาทตาหรือม่านตาซึ่งเป็นรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคลเพื่อระบุตัวตน เป็นวิธีที่ใช้งานได้ค่อนข้างยากเพราะจะต้องใช้กล้องที่สามารถมองเห็นอินฟราเรดและก่อให้เกิดอันตรายกับสายตาน้อยที่สุด แต่ก็เป็นวิธีที่มีความแม่นยำสูงมากจึงนิยมนำไปใช้กับสถานการณ์ที่ต้องการความปลอดภัยในระดับสูงสุด
4.ระบบจดจำเสียง (Voice Biometry)
เป็นระบบที่จดจำเสียงโดยจะใช้ระดับเสียง น้ำเสียง และความถี่ของเสียงที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับการตรวจสอบตัวตน ใช้วิธีนี้ก็มักจะใช้ยืนยันตัวตนในกรณีที่เข้าไปติดต่อศูนย์บริการลูกค้า อย่างเช่น ธนาคาร เป็นต้น
3 สิ่งสำคัญที่ผู้ให้บริการระบบ Biometric Authentication ควรทำ
1. พัฒนาและปรับปรุงระบบความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้ว่าระบบการตรวจสอบโดย Biometric Authentication จะมีความปลอดภัยสูงมากกว่าการใช้รหัสผ่านแบบดั้งเดิม แต่อย่าลืมว่าพวกบรรดาแฮกเกอร์หรือมิจฉาชีพทั้งหลายก็ได้มีการพัฒนาเพื่อหาหนทางในการถอดรหัสในการตรวจสอบ Biometric Authentication ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงควรที่จะปรับปรุงความปลอดภัยในการตรวจสอบเพื่อป้องกันภัยคุกคามใหม่ ๆ อยู่เสมอ
2.พัฒนากระบวนการวิเคราะห์ให้เสถียรอย่างสม่ำเสมอ
การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล Biometric Authentication อยู่เป็นประจำก็จะทำให้สามารถทราบได้ว่า เมื่อไหร่ที่ข้อมูลของผู้ใช้งานมีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยใช้งานอยู่ตามปกติ ซึ่งก็จะทำให้ผู้ที่พยายามเข้าใช้งานไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้เนื่องจากข้อมูลไม่ถูกต้อง ดังนั้นควรตรวจสอบความถูกต้องของ Biometric Authentication อยู่เป็นประจำ เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน
3.ก้าวตามกฎหมายและระเบียบการใช้งาน Biometric Authentication ให้ทัน
สำหรับ Biometric Authentication ยังถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่รวมไปถึงมีความซับซ้อน และละเอียดอ่อนในการใช้งาน ดังนั้นจึงมีกฎหมายรวมไปถึงกฎระเบียบที่ค่อนข้างรัดกุมเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลทางด้าน Biometric Authentication สำหรับองค์กรหรือหน่วยงานต่าง ๆ อยู่ด้วย ดังนั้นจึงควรติดตามข่าวสารด้านกฎหมายรวมไปถึงระเบียบการใช้งานของ Biometric Authentication เพื่อการนำไปปฏิบัติใช้ได้อย่างถูกต้อง
จะเห็นได้ว่าระบบ Biometric Authentication นั้นเป็นการยืนยันตัวตนที่มีความแม่นยำปลอดภัย และเป็นประโยชน์กับทุกองค์กร ดังนั้นจึงควรเลือกอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยของบุคลากรและการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพในการใช้งานให้มากที่สุด ถ้าหากองค์กรไหนต้องการรับคำปรึกษาด้านการยืนยันตัวตนด้วยระบบ Biometric Authentication TIGERSOFT ยินดีให้คำปรึกษาทั้งด้านการวางระบบ และการติดตั้งอุปกรณ์ อาทิ เครื่องสแกนหน้า, เครื่องสแกนนิ้ว, เครื่องทาบบัตรสำหรับเข้างานเข้างาน และอุปกรณ์อื่นๆ อย่างครบวงจร